
เริ่มแล้ววันนี้ เพิ่มค่าปรับ จักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า จาก 500 เป็น 1,000 บาท ไม่มีจ่าย ยึดรถทันที
วันนี้ (29 พ.ย. 61) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 เขต ในประเด็นเพิ่มความเข้มงวดโครงการ “จับจริง ปรับจริง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า”
โดยที่ประชุมมีมติให้เพิ่มค่าปรับสำหรับผู้กระทำความผิดจากเดิม 500 บาทเป็น 1,000 บาท โดยให้เริ่มเลยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และให้กวดขันในช่วงเวลาเร่งด่วนตั้งแต่ 08.00-09.00 น. และเวลา 16.00-19.00 น. โดยเฉพาะหน้าสถานศึกษาที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
และเมื่อมาตรการดังกล่าวได้ดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง จะมีการการเรียกเทศกิจมาพูดคุยประเมินผล และอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงอีกก็ได้ โดยจะต้องประเมินจากพฤติกรรมของผู้ขับขี่ว่ามีการกระทำผิดน้อยลงหรือไม่
ทั้งนี้หากพบผู้กระทำผิดเป็นเยาวชนหรือนักเรียน #จะไม่มีการตักเตือน และปล่อยตัว แต่จะเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม และจับปรับเงินจากผู้ปกครองแทน
ส่วนในกรณีประชาชนทั่วไปกระทำผิด หากอ้างว่าไม่มีเงินจ่าย ก็ให้เจ้าหน้าที่ #ยึดอายัดรถ ไปเก็บไว้ที่สำนักงานเขตได้ทันที เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่สามารถทำได้ และจะต้องนำเงินมาจ่ายค่าปรับจนครบจึงจะใด้รถคืน
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักเทศกิจหารือกับตำรวจเพื่อศึกษาแนวทางวิธีการรำภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการบันทึกภาพและส่งใบเสียค่าปรับไปยังบ้านของผู้กระทำความผิดของตำรวจว่ามีข้อจำกัดอย่างไรหรือไม่ แม้ กทม. จะมีกล้อง CCTV อยู่แล้วกว่า 50,000 ตัว แต่ก็เป็นกล้องรักษาความปลอดภัย ไม่ใช่กล้องเพื่อการจับภาพกระทำความผิด ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจ ทำโครงการติดตั้งกล้องเพิ่มเติมเพื่อเสนอสำนักการจราจรและขนส่งต่อไปแล้ว
ส่วนกรณีของวินจักรยานยนต์รับจ้างที่จอดรถบนทางเท้า ได้มอบหมายให้ทุกสำนักงานเขตไปสำรวจว่า จุดทางเท้าพื้นที่ใดกว้างมากพอ ก็จะให้ทำการปาดทางในลักษณะเดียวกับจุดจอดรถแท็กซี่ เพื่อให้วินจักรยานยนต์ลงมาจอดด้านล่างได้
แต่จะไม่เป็นการเปลี่ยนให้ลงมาจอดบนพื้นผิวถนนทั้งหมด เพราะเดิมเป็นนโยบายที่ให้ขึ้นไปจอดบนทางเท้าเพื่อลดปัญหาการจราจร แต่จะขอความร่วมมือวินในกรุงเทพฯ ที่มีกว่า 5,000 วิน ไม่ให้วิ่งบนทางเท้า
ทั้งนี้ สถิติการจับปรับที่ผ่านมาทั้ง 50 เขตดำเนินการจับปรับอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. -31 ต.ค. สามารถจับกุมได้ 9,572 คน โดยว่ากล่าวตักเตือน 3,250 คน,ดำเนินคดี 6,142 คน และอยู่ระหว่างดำเนินคดี 180 คน รวมเงินปรับเป็นเงิน 3,393,100 บาท ส่วนในเดือน พ.ย.นี้ ตั้งแต่วันที่ 1-26 พ.ย. ที่ผ่านมา พบผู้กระทำผิดแล้วกว่า 12,000 ราย รวมจับปรับได้เงินแล้วกว่า 570,000 บาท
CR TBPS
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น